เมื่อเราได้บ้านอุณหภูมิ/ความชื้นที่เหมาะ
สมและคงที่มีช่องนกเข้าที่ดีง่าย ต่อการบินเข้าออก
ตอนนี้เราจะมาดูไม้ที่นกทำรัง(Nesting Planks)
ประเภทไม้ : ไม้เนื้ออ่อน ไม่ไสเรียบไม่มีกลิ่นฉุน (ไม้ทุกชนิดมีกลิ่น)
ในการเกาะของนกแอ่นด้วยลักษณะของขานกไม่สามาถเกาะคอนเหมือนนกทั่วไปได้
แต่เท้านกแอ่นมีเล็บที่แหลมคมที่ใช้เกาะวัสดุที่ไม่เรียบหรือขรุขระได้ง่าย
ซึ่งถ้าใช้ไม้เนื้อแข็ง เล็บที่แหลมคมก็ไม่ระคายผิวไม้
ลักษณะทางกายภาพของนกเอื้อให้เกาะที่มุมง่ายกว่า
เพราะมุมจะเป็นลักษณะที่ไม้ยื่นออกมาหาตัวนก
ดังนั้นที่ใช้ไม้เนื้อแข็งโอกาศที่เห็นรังมุมจึงเยอะกว่า
ด้วยเหตุผลที่กล่าวมา
ไม้เนื้อแข็งผิวของมันจะค่อยๆเสื่อมสลายลงไปเรื่อยๆโดยเฉลี่ยใช้เวลาประมาณ
3-4 ปีครับ
ซึ่งถ้าเป็นบ้านใหม่นี่อาจเป็นอีกปัจจัยหนึ่งที่ทำให้นกเข้าอยู่น้อยในช่วง
ปีที่ 1-4
ตอนนี้คงพอนึกออกว่าระหว่างไม้เชอร่ากับไม้จริง(เนื้ออ่อน)อะไรดีกว่ากัน
แต่ข้อเสียของไม้เนื่ออ่อนคือ
รูในเนื้อไม้ใหญ่ความชื้นจากบรรยากาศเข้าได้ง่ายทำให้เกิดรา
หรือเปื่อยยุ่ยได้ง่าย แม้แต่ไม้ swo2 ก็มีอายุประมาณ 20 ปีเท่านั้นนะครับ
ใครที่ให้บ้านนกเป็นมรดกคงต้องสอนทายาทเรื่องการเปลี่ยนกระดานรังนกด้วย
เข้าเรื่องดีกว่า
ขนาดความกว้างของคานจะมีผลต่อจำนวนขนนกที่จะติดรังขณะนกสร้างบ้านด้วย
ดูตามรูปเอาเองนะครับ
|
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น