ลำโพง ที่เราๆท่านๆใช้กันอยู่ทุกวันนี้ มีอยู่ 2ประเภท คือ 1
ลำโพงแม่เหล็ก 2 ลำโพงเปียสโซ คำถามต่อมาที่มักจะได้รับ คือ
ตัวไหนดีกว่ากัน
เพียงคำตอบว่า ตัวที่ 1 แม่เหล็ก หรือ ตัวที่ 2 เปียสโซ เท่านั้น คงไม่ใช่ความรู้ที่คู่ควรแก่การเลือกใช้ ลำโพงแน่นอน กระทู้นี้เรา จะำไปเจาะลึกเรื่องของลำโพงกันอีกครั้ง
ผมคงไม่สอนวิธีการ ต่อลำโพงแบบขนาน แบบอนุกรม ว่าต้องทำอย่างไร และไม่มีสูตรให้ด้วย แต่จะชี้ชัดถึงเหตุและผล การเลือกใช้และวิธีการต่อลำโพงแบบง่ายๆ ที่ใช้ได้จริง
การทำงานของลำโพงนั้น อาศักหลักการ ที่ว่า ป้อนสัญญาณไฟฟ้า
หรือสัญญาณเสียงเข้าไปในลำโพง
โดยส่วนประกอบภายในของลำโพงจะสั่นกระพือเด้งไป เด้งมา
ทำให้อากาศบริเวณรอบตัวลำโพง เครื่องที่สั่นตามไปด้วย จึงเกิดสัญญาณเสียง
ถึงตรงนี้ท่านทดลองเป่าลมออกจากปากโดยที่ริมฝีปากติดกันนั่นแหละครับ
หลักการของลำโพง
ลำโพงที่เราใช้ฟังเสียงเพลงตามบ้านของเรา จะมีอิมพีแด้นซ์ 4 - 8 โอมห์ เนื่องจากเป็นค่าความต้านทานของขดลวดที่ต่ออยู่กับลำโพงชนิดแม่เหล็ก
การที่ลำโพงแม่เหล็กต้องมีขดลวดเพราะว่า เราต้องการให้ขดลวดเกิดสนามแม่เหล็กเมื่อป้อนสัญญาณเสียงเข้าไป เมื่อเกิดสนามแม่เหล็กชั่วคราวมันก็จะผลักกับแม่เหล็กฐาวรที่ก้นลำโพง ทำให้เกิดเสียงขึ้น
เพียงคำตอบว่า ตัวที่ 1 แม่เหล็ก หรือ ตัวที่ 2 เปียสโซ เท่านั้น คงไม่ใช่ความรู้ที่คู่ควรแก่การเลือกใช้ ลำโพงแน่นอน กระทู้นี้เรา จะำไปเจาะลึกเรื่องของลำโพงกันอีกครั้ง
ผมคงไม่สอนวิธีการ ต่อลำโพงแบบขนาน แบบอนุกรม ว่าต้องทำอย่างไร และไม่มีสูตรให้ด้วย แต่จะชี้ชัดถึงเหตุและผล การเลือกใช้และวิธีการต่อลำโพงแบบง่ายๆ ที่ใช้ได้จริง
การที่ลำโพงแม่เหล็กต้องมีขดลวดเพราะว่า เราต้องการให้ขดลวดเกิดสนามแม่เหล็กเมื่อป้อนสัญญาณเสียงเข้าไป เมื่อเกิดสนามแม่เหล็กชั่วคราวมันก็จะผลักกับแม่เหล็กฐาวรที่ก้นลำโพง ทำให้เกิดเสียงขึ้น
ในส่วนลำโพงเปียสโซนั้น ใช้หลักการเพียงแผ่นเพรส 2 แผ่นวางใกล้ๆกัน เมื่อป้อนกระแสไฟฟ้าเข้าไป แผ่นเพรสดังกล่าวจะสั่นทำให้เกิดเสียง
เมื่อไม่มีขดลวด ลำโพงประเภทนี้จึงมี อิมมีแด้นซ์เป็น อินฟีนิตี้ (มากๆๆๆๆๆ)
ดังนั้นลำโพงเปียสโซที่ขายตามบ้านหม้อส่วน
ใหญ่ จึงแก้ไขเรื่อง อิมพีแด้นซ์ให้เท่ากับลำโพงชนิดแม่เหล็กด้วยการ
เพิ่มขดลวดเข้าไปด้วย ดังรูปที่ท่านเห็นด้านบนนี้
โดยสภาพการใช้งานปกติ เราใช้
ลำโพงเสียงแหลมเพียง 1 หรือ 2 ตัว ต่อข้างเท่านั้น (เครื่องเสียงระบบ
สเตอริโอ มี 2 ch ซ้าย และ ขวา)
แล้วถ้าการต่อลำโพงแบบขนานจำนวนมากๆแบบในบ้านรังนก จะเกิดอะไรขึ้น
ตามสูตรการต่อขนาน แล้ว เราจะได้ค่าอิมพีแด้นซ์รวม เท่า กับ
ค่าตัวที่น้อยที่สุด งง งง งง อย่าเพิ่งมึนครับ อธิบายง่ายๆคือ
ถ้าเอาลำโพง 8 โอห์ม จำนวน 2 ตัวมาต่อขนานกัน
เราจะได้ค่าอิมพีแด้นซ์รวมเท่า 4 โอห์ม และถ้านำมาต่ออีก 2
ตัวค่าอิมพีแด้นซ์ที่ว่าจะเหลือเพียง 2 โอห์ม เมื่อ
จำนวนลำโพงมากขึ้นค่าอิมพีแด้นซ์จะลดลงไปเรื่อย จนคล้ายๆกับ
เราเอาลวดทองแดง มาต่อ ระหว่างขั้วลำโพงทั้ง 2 ขั้วเลย
ซึ่งหมายความว่าเครื่องเสียงของท่านก็จะ ช๊อตและเสียหายได้ในที่สุด
ในกรณีของลำโพงชนิดแม่เหล็กที่มีขดลวด
เราจึงมีอุปกรณ์ อีกชนิดหนึ่ง ที่ให้หลักการส่งสัญญาณเสียงแบบเหนี่ยวนำคือ
ลำโพงไม่ได้ต่อตรงกับสายลำเครื่องเสียง แต่จะผ่านหม้อแปลงตัวเล็ก
เราเรียกมันว่า แมทชิ่งทรานฟอเมอร์ แต่ถ้าเราใช้ลำโพงแบบเปียสโซแท้ แล้ว
เราสามารถนำลำโพงมาต่อขนานกันโดยที่ไม่เกิดปัญหาเรื่อง ดังกล่าวข้างต้นเลย
นั่นจึงเป็นเหตุผลที่ว่า ลำโพงบ้านรังนก เราจึงนิยมหันมาใช้
ลำโพงเปียสโซกัน
แล้วเราจะรู้ได้อย่างไร ว่า ลำโพงเปียสโซนั้น
มีขดลวดต่ออยู่ไหม ท่านต้องมีความรู้การใช้มิเตอร์
หรือให้ที่ร้านขายลำโพง วัดโอห์ม ที่ขั้วลำโพงให้
โดยลำโพงเปียสโซนั้น เข็มของมิเตอร์จะไม่ขึ้น
เนื่องจากมีอิมพีแด้นซ์สูงมาก
ส่วนลำโพงแม่เหล็กหรือลำโพงเปียสโซที่ใส่ลวดทองแดงไว้เข็มมิเตอร์จะขึ้น
อยู่ที่ตัวเลขค่า ประมาณ 8 โอห์ม
กรณีที่ท่านหาซื้อลำโพงเปียสโซ่แท้ๆไม่ได้
ถ้ามีความรู้ทางการบัดกรีมาบ้างท่านก็ แกะลำโพงเปียสโซแล้ว
บัดกรีถอดขดลวดทองแดงออกเอาไปขายได้ครับ แต่ถ้าต้องการความรวดเร็ว
อาจใช้สว่านเจาะให้โดนตำแหน่งของขดลวดให้ขาดก็ใช้ได้แล้วครับ
สำหรับเสียงของลำโพงทั้ง 2 ประเภท
ถ้าท่านตั้งใจฟังให้ดี ท่านจะพบว่า ลำโพงแบบแม่เหล็กจะให้เสียง
แหลมที่อ่อนนิ่ม กว่าเสียง แหลมที่ได้จากลำโพงเปียสโซ
ดังนั้นจึงขอแนะนำว่า ลำโพงเสียงเรียกนอกที่ปกติจะต่อไว้ที่
ปากทางเข้าของหอนก เพียง 1-2 ตัว เราสามารถใช้ ลำโพงแม่เหล็กได้
แต่สำหรับเสียง เรียกใน ต่อลำโพง จำนวนมาก
หรือ มากกว่า 10 ตัว ขึ้นไป ใช้เปียสโซเกอะครับ
เครื่องเสียงหัวใจหลักของบ้านนก จะอยู่ยงคงกระพันคู่บ้านนกของท่าน
ไปอีกนานแสนนาน........
แผ่นเปียสโซ กำเนิดเสียง ---//-----
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น