Translate

วันศุกร์ที่ 1 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2556

เปียสโซ ลำโพง

 ลำโพง ที่เราๆท่านๆใช้กันอยู่ทุกวันนี้ มีอยู่ 2ประเภท คือ  1 ลำโพงแม่เหล็ก  2 ลำโพงเปียสโซ     คำถามต่อมาที่มักจะได้รับ คือ ตัวไหนดีกว่ากัน
เพียงคำตอบว่า ตัวที่ 1 แม่เหล็ก  หรือ ตัวที่ 2 เปียสโซ เท่านั้น คงไม่ใช่ความรู้ที่คู่ควรแก่การเลือกใช้ ลำโพงแน่นอน  กระทู้นี้เรา จะำไปเจาะลึกเรื่องของลำโพงกันอีกครั้ง
ผมคงไม่สอนวิธีการ ต่อลำโพงแบบขนาน แบบอนุกรม ว่าต้องทำอย่างไร และไม่มีสูตรให้ด้วย แต่จะชี้ชัดถึงเหตุและผล  การเลือกใช้และวิธีการต่อลำโพงแบบง่ายๆ ที่ใช้ได้จริง 
 การทำงานของลำโพงนั้น อาศักหลักการ ที่ว่า ป้อนสัญญาณไฟฟ้า หรือสัญญาณเสียงเข้าไปในลำโพง โดยส่วนประกอบภายในของลำโพงจะสั่นกระพือเด้งไป เด้งมา ทำให้อากาศบริเวณรอบตัวลำโพง เครื่องที่สั่นตามไปด้วย จึงเกิดสัญญาณเสียง  ถึงตรงนี้ท่านทดลองเป่าลมออกจากปากโดยที่ริมฝีปากติดกันนั่นแหละครับ หลักการของลำโพง
 ลำโพงที่เราใช้ฟังเสียงเพลงตามบ้านของเรา จะมีอิมพีแด้นซ์ 4 - 8 โอมห์ เนื่องจากเป็นค่าความต้านทานของขดลวดที่ต่ออยู่กับลำโพงชนิดแม่เหล็ก
การที่ลำโพงแม่เหล็กต้องมีขดลวดเพราะว่า เราต้องการให้ขดลวดเกิดสนามแม่เหล็กเมื่อป้อนสัญญาณเสียงเข้าไป เมื่อเกิดสนามแม่เหล็กชั่วคราวมันก็จะผลักกับแม่เหล็กฐาวรที่ก้นลำโพง ทำให้เกิดเสียงขึ้น
ในส่วนลำโพงเปียสโซนั้น ใช้หลักการเพียงแผ่นเพรส 2 แผ่นวางใกล้ๆกัน เมื่อป้อนกระแสไฟฟ้าเข้าไป แผ่นเพรสดังกล่าวจะสั่นทำให้เกิดเสียง
เมื่อไม่มีขดลวด ลำโพงประเภทนี้จึงมี อิมมีแด้นซ์เป็น อินฟีนิตี้ (มากๆๆๆๆๆ)
ดังนั้นลำโพงเปียสโซที่ขายตามบ้านหม้อส่วน ใหญ่ จึงแก้ไขเรื่อง อิมพีแด้นซ์ให้เท่ากับลำโพงชนิดแม่เหล็กด้วยการ เพิ่มขดลวดเข้าไปด้วย ดังรูปที่ท่านเห็นด้านบนนี้

โดยสภาพการใช้งานปกติ เราใช้ ลำโพงเสียงแหลมเพียง 1 หรือ 2 ตัว ต่อข้างเท่านั้น (เครื่องเสียงระบบ สเตอริโอ มี 2 ch  ซ้าย และ ขวา) แล้วถ้าการต่อลำโพงแบบขนานจำนวนมากๆแบบในบ้านรังนก จะเกิดอะไรขึ้น ตามสูตรการต่อขนาน แล้ว เราจะได้ค่าอิมพีแด้นซ์รวม เท่า กับ ค่าตัวที่น้อยที่สุด งง  งง  งง  อย่าเพิ่งมึนครับ อธิบายง่ายๆคือ ถ้าเอาลำโพง 8 โอห์ม จำนวน 2 ตัวมาต่อขนานกัน เราจะได้ค่าอิมพีแด้นซ์รวมเท่า 4 โอห์ม และถ้านำมาต่ออีก 2 ตัวค่าอิมพีแด้นซ์ที่ว่าจะเหลือเพียง 2 โอห์ม เมื่อ จำนวนลำโพงมากขึ้นค่าอิมพีแด้นซ์จะลดลงไปเรื่อย จนคล้ายๆกับ เราเอาลวดทองแดง มาต่อ ระหว่างขั้วลำโพงทั้ง 2 ขั้วเลย  ซึ่งหมายความว่าเครื่องเสียงของท่านก็จะ ช๊อตและเสียหายได้ในที่สุด
ในกรณีของลำโพงชนิดแม่เหล็กที่มีขดลวด เราจึงมีอุปกรณ์ อีกชนิดหนึ่ง ที่ให้หลักการส่งสัญญาณเสียงแบบเหนี่ยวนำคือ ลำโพงไม่ได้ต่อตรงกับสายลำเครื่องเสียง แต่จะผ่านหม้อแปลงตัวเล็ก เราเรียกมันว่า แมทชิ่งทรานฟอเมอร์  แต่ถ้าเราใช้ลำโพงแบบเปียสโซแท้ แล้ว เราสามารถนำลำโพงมาต่อขนานกันโดยที่ไม่เกิดปัญหาเรื่อง ดังกล่าวข้างต้นเลย นั่นจึงเป็นเหตุผลที่ว่า  ลำโพงบ้านรังนก เราจึงนิยมหันมาใช้ ลำโพงเปียสโซกัน

แล้วเราจะรู้ได้อย่างไร ว่า ลำโพงเปียสโซนั้น มีขดลวดต่ออยู่ไหม  ท่านต้องมีความรู้การใช้มิเตอร์ หรือให้ที่ร้านขายลำโพง วัดโอห์ม ที่ขั้วลำโพงให้
โดยลำโพงเปียสโซนั้น เข็มของมิเตอร์จะไม่ขึ้น เนื่องจากมีอิมพีแด้นซ์สูงมาก ส่วนลำโพงแม่เหล็กหรือลำโพงเปียสโซที่ใส่ลวดทองแดงไว้เข็มมิเตอร์จะขึ้น อยู่ที่ตัวเลขค่า ประมาณ 8 โอห์ม
กรณีที่ท่านหาซื้อลำโพงเปียสโซ่แท้ๆไม่ได้ ถ้ามีความรู้ทางการบัดกรีมาบ้างท่านก็ แกะลำโพงเปียสโซแล้ว บัดกรีถอดขดลวดทองแดงออกเอาไปขายได้ครับ  แต่ถ้าต้องการความรวดเร็ว อาจใช้สว่านเจาะให้โดนตำแหน่งของขดลวดให้ขาดก็ใช้ได้แล้วครับ
 
สำหรับเสียงของลำโพงทั้ง 2 ประเภท ถ้าท่านตั้งใจฟังให้ดี ท่านจะพบว่า ลำโพงแบบแม่เหล็กจะให้เสียง แหลมที่อ่อนนิ่ม กว่าเสียง แหลมที่ได้จากลำโพงเปียสโซ  ดังนั้นจึงขอแนะนำว่า ลำโพงเสียงเรียกนอกที่ปกติจะต่อไว้ที่ ปากทางเข้าของหอนก เพียง 1-2 ตัว เราสามารถใช้ ลำโพงแม่เหล็กได้ 
แต่สำหรับเสียง เรียกใน ต่อลำโพง จำนวนมาก หรือ มากกว่า 10 ตัว ขึ้นไป ใช้เปียสโซเกอะครับ  เครื่องเสียงหัวใจหลักของบ้านนก จะอยู่ยงคงกระพันคู่บ้านนกของท่าน ไปอีกนานแสนนาน........

แผ่นเปียสโซ กำเนิดเสียง  ---//-----

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น