Translate

วันศุกร์ที่ 7 มิถุนายน พ.ศ. 2556

เก็บรังนก รอขาย ทำอย่างไร

                  รังนกแอ่น ราคาดี ต้องสีขาว ขนน้อย รังสมบูรณ์ ไม่แตก บิดเบี้ยว ขั้นตอนกระบวนการของรังนกที่มีคุณสมบัติดังกล่าว ต้องดีตั้งแต่ระบบจัดการภายในบ้านรังนก จนมาถึง กระบวนการเก็บรังออกจากบ้านและขั้นตอนการจัดเก็บรักษารังนกให้คงสภาพ จนกระทั้งแลกเปลี่ยนเป็นเงิน

                 สำหรับท่านที่เก็บรังนกไว้นาน คงจะทราบดีกันอยู่แล้วว่า ในรังนก มักจะมีไข่ของแมลง ที่ปนเปลื้อนอยู่กับมูลของลูกนกที่ถ่ายทิ้งอยู่บ้าง (โดยส่วนใหญ่ลูกนกจะถ่ายมูลออกนอกรังเสมอ) และเมื่อท่านเก็บไว้ในกล่องในถุง ซึงมีสภาพที่เอื้ออำนวยต่อการเจริญเติบโตของแมลง  มันจึงถูกฟักออกมาและกินอาหารซึ่งมีอยู่อย่างเดียวคือรังนก ที่ท่านถนุถนอม กว่าท่านจะรู้ รังนกจำนวนหนึ่งก็เสียหายเสียแล้ว


นี้จึงเป็นเหตุ แห่งการหาวิธีการต่างๆ ในการเก็บรักษารังนกให้คงคุณภาพดังเดิม เช่น

           + ใส่ถุงหรือกล่อง แช่ตู้เย็น  ก็เป็นวิธีที่ป้องกันต้นเหตุ รังเสียหายจากแมลงได้ดี ทั้งยังช่วยรักษาสีของรังได้ดีอีกด้วย
           +   การนึ่ง ก็เป็นวิธีการใช้ไอน้ำ ทำให้แมลง ตาย แต่กระบวนการนี้ต้องทำด้วยความระมัดระวังเพราะความร้อนจากไอน้ำจะสามารถทำให้รังบิดเบี้ยวได้

สำหรับท่านใด มีข้อเสนอแนะ วิธีการอื่นๆ เชิญ แนะนำโดยฝากข้อความไว้ได้ครับ



วันพุธที่ 27 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2556

ลำโพง เปียสโซ vs แม่เหล็ก

ตั้งใจจะเขียนบทความนี้อยู่หลายครั้ง แต่เนื่องจาก เป็นประเด็นความรู้ที่ผู้อ่านต้องมี ทักษะเชิงช่างอิเลคทรอนิคส์พื้นฐานอยู่บ้าง จึงมิได้เริ่มเขียนสักที แต่ด้วยว่า มีความไม่รู้ของท่านเจ้าของบ้านบางหลัง ที่ต้องเสียเงินเสียทอง เพื่อปรับปรุงระบบใหม่ที่มิได้ มีผลอะไรกับนกแอ่น จึงขอเริ่มดังนี้

อดีต
ลำโพงที่มีขายในท้องตลาดทั้งหมด จะเป็นลำโพงประเภทแม่เหล็ก ที่ใช้ขดลวดเหนี่ยวนำสนามแม่เหล็กให้เกิดการเคลื่อนที่ของกรวยกระดาษของลำโพง เพื่อให้เกิดเสียง ข้อดี ของลำโพงแม่เหล็กคือได้เสียงที่ นิ่มนวลกว่า ลำโพงประเภทอื่น ข้อด้อยคือ ลำโพงประเภทนี้ ไม่สามารถ ต่อจำนวนมากขนานกันได้ จำเป็นต้องใช้ อุปกรณ์ประเภทขดลวด (แมทชิ่งทรานฟอร์เมอร์) ต่อเข้าไปด้วย เพื่อป้องกันเครื่องเสียงเสียหาย(อิมพีแด้นซ์) และ ทำให้เสียงของลำโพงดังเท่ากันทุกๆตัว


ปัจจุบัน
มีการนำแผ่นเปียสโซมาประยุกต์ใช้ เป็นลำโพงเสียงแหลม โดยมีข้อดีสำหรับบ้านรังนกคือ ลำโพงเปียสโซ(แท้) สามารถนำมาต่อขนานจำนวนมากได้โดยไม่เกิดปัญหาเหมือนกับลำโพงประเภทแม่เหล็ก และยังมีความคงทนกว่าลำโพงแม่เหล็กที่ใช้ขดลวด (ต้องเปิดความดังที่ลำโพงรับได้)

จากการทดลอง วัดผลการใช้ลำโพง ทั้งสองประเภทในบ้านรังนก เราไม่พบปัญหาในการเข้าอยู่อาศัยหรือ จำนวนการเพิ่มแต่อย่างใด


สรุป
  1 บ้านรังนกแอ่นสามารถใช้ลำโพงได้ทั้งสองประเภท
       2 ค่าใช้จ่ายลำโพงเปียสโซถูกกว่าลำโพงแม่เหล็ก เพราะไม่ต้องใช้ แมทชิ่งทรานฟอร์เมอร์มาช่วย  ปรับอิมพีแด้นซ์
       3 แนะนำให้ใช้เปียสโซเป็นลำโพงเรียกใน เพราะต้องใช้ลำโพงจำนวนมาก ส่วนลำโพงเรียกนอกแนะนำให้ใช้ลำโพงแม่เหล็กเพราะ มีจำนวนวัตต์และขนาดเล็กใหญ่ ให้เลือกจำนวนมาก เหมาะกับการเปิดที่ต้องใช้เสียงดังกว่าภายในบ้าน

      

วันพุธที่ 20 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2556

หน้าแล้ง กับ นกแอ่น

บทความชุดนี้ เขียนจากประเด็นที่เพื่อนๆส่ง LINE เข้ามาถามว่า นกแอ่นขี้เป็นสีขาวเยอะ ใช่นกเข้ามานอนใหม่หรือไม่ ขอตอบแบบรวบรัด ว่า ไม่  การดูว่ามีนกนอนใหม่ ต้องดูตำแหน่งกองขี้นกที่เพิ่มขึ้น

ประเด็นขี้นกสีขาวนั้น เนื่องจาก ฤดูแล้ง ความชุ่มชื้นน้อย แมลงต่างๆ ก็พลอยลดน้อยถอยลง เมื่อแมลงซึ่งเป็นอาหารหลักเพียงอย่างเดียวของนกแอ่น น้อยลง   ก้อนอึ (FECAL) สีดำ จึงมีขนาดเล็กลงจนถึงกับไม่มีเอาเสียเลย คงเหลือแต่เพียง ฉี่นก (URINE) สีขาว เท่านั้นเอง



 ตอบแบบหลักวิชาการ  ทีมา:http://www.fwdder.com/topic/75417

ทำไมขี้นกถึงมีสีขาว?



ขี้นกมีสีมากกว่าที่คุณคิดอีกครับ ส่วนสีขาวเราเรียกว่า ยูเรต (urate) ซึ่งมีผลึก (crystal) ของกรดยูริกเป็นส่วนประกอบและเป็นผลพลอยได้จากไตของนกนั่นเอง นอกจากผลึกแล้ว ภายในยูเรตยังมีก้อนอุจจาระ (feces; ของเสียในรูปของแข็ง) ก้อนอุจจาระนี้มักจะแข็งและมีรูปร่างคล้ายหนอนและสีของมันได้มาจากอาหารที่ นกกิน สีของอุจจาระอาจจมีสีเขียว (จากเมล็ดพืชและผักสีเขียว) ไปจนถึงสีดำ (จากแมลงต่าง) 

นอกจากนี้ ขี้นกยังมียูรีน (urine) อยู่เล็กน้อย เหตุผลที่มันมียูรีนน้อยก็คือ นกทั้งหมด (ยกเว้น นกกระจอกเทศ) ไม่มีกระเพาะปัสสาวะ (bladder) และไม่สามารถเก็บน้ำปริมาณมากไว้ได้ เพราะจะทำให้ตัวมันหนักจนไม่สามารถบินได้ (แต่นกกระจอกเทศบินไม่ได้นะจ๊ะ)



 

วันอาทิตย์ที่ 3 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2556

เวลาปิด-เปิดเสียงเรียก กับฤดูกาลที่เปลี่ยนไป..

วันนี้ผมประจำการอยู่ จ.พัทลุง มีโอกาศเข้าไปรับทานอาหาร ที่ตลาด แม่ขรี  ผมไม่ทราบว่า เสียงนกดังมาจากทางไหน เนื่องจากตึกสูงล้อมรอบ บริเวณที่ผมอยู่  ขณะนั้นเวลา 19.30 น. ณ.ฤดูร้อน เวลานี้ ฟ้ายังสว่าง นกกำลังบินกลับรัง  ชาวบ้าน ร้านค้า ต่างทำมาหาดิน การเปิดเสียงแต่พอดี เวลาอย่างนี้ คงไม่รบกวนผู้อื่นเกินไป 
แต่ วันนี้ 5 ตุลาคม 2554 บรรยากาศ ต่างกันอย่างมากมาย ฟ้ามืดตั้งแต่ 18.30 น. บรรยากาศกลางคืน เริ่มเร็วขึ้น ในขณะที่ เวลาเช้าก็เริ่มเร็วขึ้นเช่นกัน    นกแอ่นหรือนกชนิดอื่นๆ ต่างก็ปรับตัวตามเวลาขึ้นลงของดวงอาทิตย์
ดัง นั้น การปรับเปลี่ยนเวลา เปิดปิดเสียง ตามรอบเวลาเร็วช้าของดวงอาทิตย์ จะทำให้บ้านของท่านมีผลต่อการเรียกนกแอ่นได้ดีขึ้น และยังรบกวน เพื่อนบ้านใกล้เคียงได้น้อยลง  ได้อย่างแน่นอน

* ท่านใดต้องการ คัดลอกหรือลอกเลียนแบบ บทความ ขอความกรุณา อ้างอิง หรือ link กลับมาที่ website แห่งนี้ด้วยนะครับ

วันศุกร์ที่ 1 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2556

เมื่อนกทิ้งบ้าน(ห้องสนธนา)

‹SC›  โจทย์ปัญหาวันนี้   เรื่อง  นกทิ้งบ้าน
อาการ   มีนกเข้าบ้าน มีกองขี้ แต่แห้งไปหมดแล้ว  การเล่นเสียงมีบ้าง แต่ไม่มาก ระยะหลังไม่ค่อยมี
‹SC› เชิญวิเคราะห์ปัญหาครับ

‹หลวง› นกเข้าแล้วไม่ยอมอยู่นี้ก็อีกปัญหา
‹num› งั้นดูปัญหานกไม่เข้าก่อนนะครับ
‹คนเมืองดาบ› ต้องที่ ลำโพงก่อนครับ
‹SC›
‹คนเมืองดาบ› ดู
‹หลวง› แสดงว่านกทิ้ง
‹SC› ครับ
‹num› หมายความว่ามีนกเข้าไปสำรวจ
‹SC› ครับ
‹หลวง› ที่เคยเจอ แบบนี้
‹SC› มีกองขี้ตามลำโพงแล้วครับ แต่เข้าดูอีก ปรากฎว่าขี้แห้งเป็นขุยหมดเลย
‹ok› .
‹หลวง› เจ้าของบ้านรู้ดีกว่านก
‹num› ถ้านกเข้าไปสำรวจแล้วก็น่าจะดูปัญหาภายใน
‹SC› ขยายหน่อยครับ
‹หลวง› มีอยู่หลังนกเข้าดี นอนดี อยู่ๆก็ทิ้งไป
‹num› คุณหลวง ครับ ช่วยหน่อยครับ
‹คนเมืองดาบ› คนไปรบกวน หรือเปล่าครับ
‹หลวง› เนื่องจากเจ้าของบ้านมีความรู้สึกส่วนตัวดีกว่านก
‹หลวง› เหตุ จากบ้านนหมีปลวก
‹หลวง› เจ้าของบอกว่ามียาดี ที่ไม่มีผลใดๆต่อนก
‹หลวง› ผลออกมานกทิ้งบ้าน
‹หลวง› นกเท่านั้นที่รู้ดีกว่าคน ว่าบ้านนี้ดีอยู่ได้
‹SC› ยังมี ปัจจัยอื่นๆอีกไหมครับ
‹หลวง› ยังมี
‹หลวง› ความขยันของเจ้าของบ้านนก
‹หลวง› ผมเจออยู่อีกอย่าง
‹หลวง› มีคอนเซาท์อยู่รายหนึ่ง
‹SC› รีบไปไหน เอาหน้าทับของนิ่มๆ ครับ
‹หลวง› บอกวิธีเช็คนกนกว่ากลับมานอนที่เดิมเปล่า
‹SC› เชิญ หลวง, ต่อครับ
‹หลวง› โดยให้หากระดาษตัดขนาด A4 แล้วนำไม่รองไว้ในจุดที่มีขึ้นกอยู่
‹หลวง› หลังจากที่ลองเสร็จ  วันต่อมาให้เข้าไปดูว่าบนกระดาษที่ลองมีขี้นกใหม่เปล่า
‹หลวง› ถ้ามี แสดงว่านกยังนอนอยู่ที่เดิม
‹หลวง› ถ้าไม่มีแสดงว่านกย้ายที่นอนหรือไม่กลับมานอนที่เดิม
‹หลวง› ทำอยู่อย่างนี้เป็นเดือน
‹หลวง› ผลที่ได้รับ นกมันย้ายบ้านหนีเลย
‹SC› ส่วนหนึ่ง คือ เจ้าของบ้านเข้าบ้านทุกๆวัน ด้วยนะครับ
‹หลวง› สรุปง่ายๆ ผลที่นกอยู่แล้วทิ้ง ส่วนใหญ่มาจากตัวเจ้าของบ้านเอง
‹SC› สรุปคร่าวๆ ว่า เราต้องดูว่า ตอนที่นกเข้าอยู่ และหลังจากที่นกทิ้งไป  มีปัจจัยอะไรที่แตกต่างกันบ้าง รวมถึง การรบกวนนกด้วย ใช่ไหมครับ
‹หลวง› ครับ

  • หมายเหตุ  การทิ้งรังของนกแอ่น โดยทั่วไป เกิดจากสภาพแวดล้อมที่ไม่เหมาะกับการอยู่อาศัยของนกแอ่น ซึ่งมักจะเกิดกับ บ้านนกใหม่ๆ ที่นกเข้าอยู่ยังไม่มาก   เช่น
  • -  อุณภูมิ  ความชื้น   ที่เปลี่ยนไปในทางที่เลวลง กว่าเดิมจากครั้งแรกที่นกเคยเข้าอยู่
  • -   การปรับเปลี่ยน การระบายอากาศที่มากเกินไปหรือน้อยเกินไป อย่างกะทันหัน
  • เช่น  เปลี่ยนระบบภายในบ้าน , ไฟฟ้าดับ , อุปกรณ์ต่างๆเสีย
  • -   มีศัตรูในบ้านนก เข้าไปอยู่อาศัยด้วย   เช่น หนู   งู   ตุ๊กแก
  • -   พฤติกรรมของผู้ดูแลบ้านรังนก เช่น ชอบปรับเปลี่ยน ระบบต่างๆในบ้านรังนก บ่อยๆ หรือ ใจร้อนเข้าดูภายในบ้าน นกบ่อยเกินไป
* ท่านที่นำบทความไปเผยแพร่ หรือ ลอกเลียนแบบ บทความ ขอความกรุณาให้ เครดิตกับ เวปไซท์  โดยการทำ link กลับมาที่ swiftletsupply.com ด้วยครับ มิฉะนั้น เราจะ.......เสียใจ...เฮ้อ....

ความชื้น กระแสลม (ห้องสนธนา)

eastswiftlet lสวัสดีค่ะ..  มาแนะนำตัวก่อน ทำบ้านนกที่ระยองได้เกือบ 2 ปีแล้ว  มือใหม่มากๆ  ทำเองคิดเองมั่วเอง ลองผิดลองถูกตอนนี้มีรังประมาณ50 อยากถามเรื่องการไหลเวียนอากาศในบ้านนกควรจะให้มันทึบ  (ตามที่บางคนบอก) หรือให้มันโปร่งๆหมายถึงอากาศ   เพราะ เวลาอุดท่อระบายอากาศจะสังเกตูว่ากลิ่นในบ้านนกจะแรง (กลิ่นมูลนก)ความชื้นในบ้านจะสูงขึ้นและไม่ค่อยแกว่งแต่เสียวๆว่าน้องราจะมา ซึ่งมันน่าจะดี  แต่เวลาเปิดช่องระบายอากาศมากขึ้น ความชื้นจะลดลง บางทีมีแกว่งบ้างแต่ยังอยู่ในrangeที่นกชอบคือสูงกว่า80 กลิ่นเบาบางลง
 ดู แล้วน่าจะอุดให้ทึบใช่มั้ย...แต่ที่สังเกตจากกำแหน่งที่นกทำรัง ค่อนข้างใกล้จุดที่ระบายอาอาศได้ดี เป็นจุดที่โปร่งของบ้าน เลยงง เอาไงดี  รบกวนท่านsifu ,มือโปรทั้งหลาย แนะนำด้วยค่า

หนุ่มยะลา ผม คิดง่ายๆนะครับ ควรทำแบบเดิมๆ ตอนที่นกเข้ามาอยู่อาศัยครับ เพราะนกนางแอ่นเป็นตัวเลือกเองครับ อะไรดีไม่ดี เราวิตกกว่านก ใจร้อนไปจะไม่ดีครับ อย่าเปลี่ยนแปลงอะไรฉบับพลันมากเกินไปในบ้านนกครับ นกที่พึ่งเข้ามาใหม่ๆชุดใหม่ๆ ที่กำลังจตัดสินใจหรือพึ่งตัดสินใจหนีจาบ้านนกเราได้ครับ  นกเท่านั้นที่รู้ดีว่าบ้านแบบไหนน่าอยู่ครับ ใจเย็นๆครับ ทำมาจะ2ปีแล้ว มีนกเข้ามาแล้ว ใจเย็นๆนะครับ นกเพิ่มเองครับ กำลังดี ไปได้สวยครับ  ลูกนกและนกชุดใหม่จะเพิ่มเป็นอย่างน้อย 2เท่าตลอดในแต่ล่ะรอบครับถึงแม้น้อยกว่าที่คิด ก็ถือว่าโอเคอยู่ครับ อีกไม่นานได้เก็บรังนกนางแอ่นขายแน่นอนครับผม

หนุ่มยะลา ดีใจ ด้วยครับ อย่างคำที่คุณหลวงเคยบอกไว้ อย่ารู้ดีกว่านก คิดแทนนกครับผม ปรับได้ เปลี่ยนได้ พอแค่เหมาะเล็กน้อย อย่ามาก รบกวนนกให้น้อยที่สุด บ้านที่เหมาะที่น่าอยู่ นกก็เหมือนคนครับ เลือกบ้านที่สุขสบายครับผม เพื่อครอบครัวและลูกหลานครับ
eastswiftlet ขอบคุณคุณหนุ่มยะลามากค่ะ น้อมรับคำแนะนำค่ะ จะยังไม่ปรับอะไรตอนนี้ไว้อีก 2 เดือนถ้าความก้าวหน้าไม่ดี ค่อยปรับอีกที    คือก่อนหน้านี้บ้านค่อนข้างโปร่ง การเพิ่มของรังก็รอบละ สิบต้นๆ(รัง) ต่อเวลา 2เดือน พอมาเข้าหน้าหนาว อากาศแห้งมากบางวันภายนอกตกไปเหลือ 40 กว่าเปอร์เซนต์ เครื่องพ่นหมอกทำงานหนักมากเลยไปปิดช่องลมบางส่วนให้อับทึบมากขึ้นรอบหน้าหนาวนี้เลยเพิ่มแค่9รังในเวลา 2.5 เดือน  ไม่รู้บังเอิญลดลงเพราะตรงกับฤดูกาล หรือที่อุดช่องลมให้ทึบก็ไม่รู้  แต่ตอนนั้นไม่มีทางเลือก อากาศแห้งมากภายนอก40-50%ในบ้านสุงกว่าภายนอก10-15% โดยที่ยังไม่เปิดพ่นหมอก เลยต้องปิด  ขนาด ปิดชั้นบนสุดยังพ่นหมอกเกือบทั้งวัน ตอนนี้อากาศไม่แห้งแล้ว แต่ไม่ได้เอาที่อุดไว้ออก เพราะไปอ่านเจอว่าให้ทึบๆอับๆไว้จะดีกว่าออกมาแล้วเลยมานั่งวิตกนิดหน่อย จริงๆ แล้วต้องให้ในบ้านอับๆทึบๆแต่อย่าถึงขั้นขึ้นราใช่มั้ยค่ะ เพราะอุณหภูมิมันนิ่งกว่า กลิ่นก็ดีกว่า แทบจะปิดระบบทุกอย่างได้เลย8-) ไว้อีก 2เดือนก็รู้ (y)หรือ(n)
หนุ่มยะลา แรกๆ ผมบอกได้เลยนะครับ ผมทำแบบคุณนี่ล่ะครับ ปิดช่อง เพื่อให้อากาศภายในไม่แปรเปลี่ยนเปลี่ยนก็น้อย และความชื้นยังคงอยู่ ไม่แปลกที่เราจะทำครับ แต่เดียวนี้ ผมเริ่มเปิดให้เหมือนเดิมครับ นกที่อาศัยก็ยังคงอยู่ ไม่กระทบ แสดงว่าบ้านเหมาะกับนกแล้วเพราะนกบ้างตัว นกจ่าฟูงเลือกแล้ว ถ้า ปรับเปลี่ยนไปมากๆ อาจจะไม่เป็นผลดีมากกว่า เพราะเราคิดมากไปนั่นเองแล้วจะกระทบกับนกเราเพราะเราจะเข้าไปรบกวนมันบ่อย ขึ้น ทำโน้นเปลี่ยนนี่ไปตลอด ถ้าบ้านเราโอเคอยู่แล้วผิดนิดๆ พลาดหน่อยๆ นกตัดสิ้นออกมาเองครับ ผมว่าการสังเกตนกสำคัญด้วยครับ
eastswiftlet เงียบจัง.. หาเรื่องคุยดีกว่า  เมื่ออาทิตย์ที่แล้ว ไปแกลงมา จุดที่นกเยอะสุดของแกลงคือ ตลาดสามย่าน
นกเยอะจริงๆ แต่บ้านก็เยอะด้วย ขนาดราคาไม่ดีๆ บ้านยังเพิ่มแบบไม่สนใจอะไรทั้งนั้นมีอยู่จุดหนึ่งใกล้กับตลาดสามย่าน (ห่างประมาณ1 กม) เป็นจุดที่มีนกบินผ่านเพื่อกลับมาที่ตลาดสามย่านเป็นจำนวนมาก มีคนสร้างบ้านนกหลังใหญ่มากกก...
แถมหลายหลังด้วย มีอยู่หลังหนึ่ง ขนาดของบ้านเท่ากับอาคารพาณิชย์สิบกว่าห้อง ทำให้สงสัยว่า  นกจะเพิ่มจำนวนทันปริมาณบ้านที่เพิ่มขึ้นเหรอ?? มีบางคนบอกว่า ยิ่งมีบ้านนกเพิ่มเท่าไร นกในบริเวณนั้นจะยิ่งเพิ่มมากขึ้น มันจะเป็นอย่างนั้นจริงๆหรือค่ะ



ทำบ้านนกที่ระยองได้เกือบ 2 ปีแล้ว  มือใหม่มากๆ  ทำเองคิดเองมั่วเอง ลองผิดลองถูกตอนนี้มีรังประมาณ50 อยากถามเรื่องการไหลเวียนอากาศในบ้านนกควรจะให้มันทึบ  (ตามที่บางคนบอก) หรือให้มันโปร่งๆหมายถึงอากาศ   เพราะ เวลาอุดท่อระบายอากาศจะสังเกตูว่ากลิ่นในบ้านนกจะแรง (กลิ่นมูลนก)ความชื้นในบ้านจะสูงขึ้นและไม่ค่อยแกว่งแต่เสียวๆว่าน้องราจะมา ซึ่งมันน่าจะดี  แต่เวลาเปิดช่องระบายอากาศมากขึ้น ความชื้นจะลดลง บางทีมีแกว่งบ้างแต่ยังอยู่ในrangeที่นกชอบคือสูงกว่า80 กลิ่นเบาบางลง
สรุปคำถาม  นกชอบอากาศแบบไหน   
1.อับทึบระบายอากาศได้น้อย   
2. โปร่งมีการระบายอากาศ ที่เหมาะสม
เรื่องจริง คงต้องถามนกนะครับ   แต่ถ้าสังเกตุตามที่คุณหรือเจ้าของบ้านนกทั่วไป ก็มีประสพการณ์ใกล้เคียงกัน คือ นกมักชอบทำรังตามแนวที่มีกระแสลมไหลผ่าน  ( เน้นว่าความแรงที่เหมาะสม ไม่มากหรือน้อยเกินไป )
สำหรับ เรื่องความชื้นที่มากหรือน้อย ก็จะสัมพันธ์กับระบบการสร้างความชื้นตามแต่ที่ท่านเจ้าของบ้านเลือก
ขอเสริมว่า จังหวัดต่างๆหรือภาคต่างๆ ก็จะมีลักษณะอากาศความชื้นที่แตกต่างๆกัน   บ้านนกที่ระยอง กับ สุราษฯ อาจจำเป็นต้อง ปรับตั้งระบบความชื้นที่แตกต่างกันนะครับ

อากาศที่นกชอบ (ห้องสนธนา)

tohjangนกเริ่มเยอะขึ้นบ้างแล้วคับ  แต่อากาศก็ร้อนน่าดูเลย
ระบบ cp นี่แจ๋มมากเลยคับ   หลังต่อไป จะทำ cp ให้ใหญ่กว่านี้อีก
แปลกนะคับ ทำไมนกถึงเยอะตอนอากาศเริ่มร้อนอะคับ
 ก่อนหน้านี้แทบไม่มีให้เห็นเลย  แต่พออากาสร้อน เริ่มมีนกซะงั้น
 รังเทียมที่ผมติด นกทำรังด้วยคับ ติดไป 10 รัง นกทำรัง 1 รังคับ แล้วนกไม่ได้อยู่ในรังเฉยๆด้วยคับ มันทำรังในรังเทียมด้วย  มีโอกาศจะถ่ายภาพให้ดู  แต่รังไม่คอยสวยคับ บิดๆเบี้ยวๆ สงสัยอากาศจะร้อนมากคับ

หลวงอย่าเข้าใจผิดว่า ทำไมอากาศร้อน แล้วนกเริ่มมาก  นกแอ่นกินรัง เป็นนกเขตร้อนชื้น ไม่ชอบอากาศหนาว และจะเจริญพันธ์ในหน้าฝนน้อยลง
ส่วนบ้านที่มีอุณหภูมิมากกว่า 30 องศา ความชื้นต่ำกว่า 70 ไม่ต้องกลัวหลอกนกอยู่ได้และทำรังด้วย (เฉพาะบ้านที่มีนกอยู่ อยู่แล้ว)  ส่วนบ้านที่เปิดใหม่ ต้องปรับปรุงครับ

หนุ่มยะลาขอบ คุณอาจารณ์ใหญ่นะครับ ที่บอกข้อมูลดีดีให้ฟัง ผมก็คิดแบบคุณหลวงเหมือนกันครับ นกที่อาศัยอยู่แล้ว ตามบ้านรังใหญ่บ้างแห้ง ไม่มีปัญหา
 แต่อย่าให้มากเกินไป เปลี่ยนแปลงสภาพอากาศและความชื้นมาขนเกินไป จากที่นกเคยตัดสินใจมาอยู่บ้านนี้ตั้งแต่แรกเริ่มครับ  ส่วนบ้านใหม่ นกมีน้อยหรือแค่มาสำรวจ ต้องปรับปรุงครับ จำเป็นมาก

ขี่นกมีสีขาวแปลว่า

tohjang ถ้าขี่นกมีสีขาวแปลว่าอาหารไมาสมบูรณืหรือปล่าวคับ...
sc กอง ขี้นก บนพื้น จะมีสองส่วน คือ 1.ก้อนสีดำซึ่งเป็นส่วนของกากคือ ซากแมลงที่ผ่านการย่อยแล้ว 2.ส่วนสีขาว เปรียบได้กับฉี่นก(เท่าที่ทราบ)
sc เมื่ออาหารของนกคือ แมลงมีน้อย  ส่วนที่1 ก็จะน้อยครับ
sc ขี้นก ต้องมีทั้งสอง เสมอครับ
pom bb ครับ

SC ข้อมูลเรื่องขี้
ขี้แบ่ง เป็นสองส่วน  คือ  อุจจาระและปัสสาวะ สีดำคืออุจจาระส่วนของเหลวข้นสีขาวคือปัสสาวะ เวลาถ่ายมันจะถ่ายออกมาพร้อมกันทั้งอุจจาระและปัสสาวะ โดยปล่อยออกมาทางช่องขับถ่ายเดียวกัน นี่เป็นลักษณะการขับถ่ายของสัตว์ปีกและสัตว์เลื้อยคลาน ซึ่งมีระบบขับถ่ายที่แตกต่างไปจากสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม

แบบของหอนก 3

ต่อเนื่องจากตอนที่ 1 และ 2 นอกจากช่องนกเข้าจะมีส่วนสำคัญในการเรียกนกเข้าบ้าน ยิ่งโดยเฉพาะบ้านใหม่ๆบับว่าเป็นบันไดเริ่มต้นสำหรับบ้านนกก็คงจะไม่ผิด  ตอนที่3 จึงนำมาเล่าให้ฟังถึง หอนกแบบต่างๆ  มีทั้งแบบที่นกเข้า-ออกบนหอ จนพอใจแล้วจึงเข้าบ้าน หรือบางแบบถ้านกบินเข้าไปเมื่อไร ก็ถูกบังคับให้บินเข้าบ้านทันที ก็มี  เชิญท่านผู้สนใจติดตามชม
แบบของหอนกทั้ง 2 แบบ จะพบได้โดยทั่วไป
แบบที่ 1 จะเป็นลักษณะกึ่งบังคับให้นก เมื่อเข้ามาแล้วต้องบินลงไปสำรวจชั้นล่างต่อไปอีก เนื่องจากความแคบของหอ
แบบที่ 2 สำหรับบ้านที่มีพื้นที่มากหน่อย นกจะเข้ามาบินเล่นในหอนกได้ และเมื่อพร้อมก็จะบินเข้าไปสำรวจภายในบ้าน
โดยหลักการทุกแบบมีข้อดีและเสีย กลับไปอ่านตอนที่ 1 และ 2 ก็จะเข้าใจและเป็นข้อมูลเพื่อตัดสินใจสำหรับมือใหม่ครับ
* สำหรับบ้านนกสำเร็จ ที่ ผมทำขาย มีหอทั้งสองแบบ แล้วแต่รูปทรงของบ้านครับ

หอ นกแบบที่ 3 open roof  ด้วยการแก้ปัญหาเรื่องเสียงจากลำโพงที่ช่องทางเข้าของหอนก ที่ดังรบกวนเพื่อนบ้าน จึงมีการเปิดให้นกเข้าจากทางด้านบน ลักษณะดังภาพ ทำให้เสียงรบกวนลดลงเนื่องจากถูกกำแพงกั้นไว้  
สำหรับท่านที่อยากนับนกเข้าบ้าน แบบนี้นับยากครับ ข้อควรระวัง หอนกแบบนี้ควรคำนวนเรื่องระยะวงบินของนกให้ดีนะัครับ

นี่เป็น open roof อีกแบบหนึ่ง(บ้านหลังนี้เราสร้างเพื่อขาย )  ซึ่งมีเทคนิคที่แตกต่างออกไป สำหรับท่านที่สนใจ รบกวนเข้าบอร์ด นานา สาระบ้าง 18+ (ต้องสมัครสมาชิคก่อน จึงมองเห็น ฟรี ไม่มีค่าสมาชิค ครับ)   มีบ้านหลังนี้โชว์ภายในให้ดูครับ



พัดลม กับ บ้ายรังนก

การติดพัดลมดูดอากาศ กับระบบการสร้างความชื้นแบบ cooling pad เป็นของคู่กัน มียกเว้นบ้างในบ้านที่อยู่ในทำเลและมีการออกแบบที่เหมาะสม
เห็นเพื่อนๆ พูดคุยเรื่อง การใช้พัดลม ในบ้านรังนกแล้ว ก็คงมิได้ขัดข้องแต่ประการใด แต่อยากจะเสริมบางแง่มุม เพื่อให้ สมาชิคใหม่ที่เข้ามาอ่านได้รู้พื่นฐานเสียก่อนที่จะนำความรู้จากเวปไซท์แห่ง นี้ไปต่อยอด 
1.ความเร็วลม กับนกแอ่น   ในบ้านรังนกเราต้องการความแรงของลมเพียงเล็กน้อย เราเคยซื้อเครื่องวัดความเร็วลมมาใช้ แต่วัดไม่ได้ จึงคิดเครื่องมือวัดความเร็วลมเองด้วย  เครื่องมือวัดง่ายๆคือ
1.1.(สูตรคุณหลวง) ใช้เปลวไปแช็ก ตรวจเช็ค เปลวไฟ ต้องไม่ไหว
1.2 สูตรใยแมงมุม  ใช้ใยแมงมุมตรวจเช็ค  โดยใยแมงมุมจะปลิวไหวเท่านั้น   (น้ำหนักขนาดเส้นด้ายไม่ปลิวไหว)
ความชื้นในบ้านถูกสร้างได้อย่างไร ?
1.คูลลิ่งแพด จะใช้อากาศจากภายนอกมาสร้างความชื้น นั่นหมายความว่า บ้านของท่านอากาศควรจะเข้าทางคูลลิ่งแพดเท่านั้น
2.เราให้อากาศไหลผ่าน c/p (coolingpad) เพื่อให้เกิดความชื้นและความเย็น และเพื่อให้บรรยากาศดังกล่าวเกิดตลอดช่วงเวลาที่กำหนด เราจึงต้องติดพัดลมให้ดูดอากาศออก เพื่อให้อากาศจากภายนอกเข้าผ่าน c/p ตลอดช่วงเวลานั้นเอง
cooling pad ขนาด จำนวน เท่าไรดี ?

การสร้างความชื้น เราจะคำนึงถึงขนาดพื้นที่ แนะนำว่า ทำให้มากไว้ก่อน ถ้าทำแล้วมากเกินไป เราไม่ใช้ปิดเสียยังทำได้ง่ายกว่า มาติดตั้งใหม่
ขนาด ของคูลลิ่งแพด ปัจจุบันมีการทำ c/p ขนาดใหญ่ ซึ่งก็ได้ผลดี (คุณหลวง) ทั้งนี้ทั้งนั้นขนาดต้องติดบนผนังต้องพิจารณาผนังบ้านเป็นสำคัญครับ
ในบ้านนก ควรติดพัดลมขนาดเท่าไร จำนวนกี่ตัว ?
สูตรพัดลม ขนาด จำนวนของพัดลม เราไม่กำหนดตายตัว ปรับเปลี่ยนไปตามปัจจัยร่วมต่างๆ เช่น ขนาดพื้นที่ของบ้านรังนก  ขนาดของ c/p บ้านรังนก สามารถติดพัดลมดูด ได้หลายจุด ถ้าบ้านกว้าง
นกจะเกาะนอนตามแนว ลมภายในบ้าน ถ้าท่าน ทำให้ลมกระจายได้ทั่วบ้าน นกก็จะไม่กระจุกตัว เป็นกลุ่ม ช่วยส่งเสริมให้ นกเพิ่มเร็วขึ้น ปัญหาเรื่อง หวงอาณาเขต ก็ลดน้อยลง
เรื่องแสงที่จะผ่านเข้า c/p กรณีผนังชั้นเดียว อย่าได้กังวล  ไม่มีผลอันใด
  สาระสำคัญ  อย่าลืม ลมไม่แรงเกินไป  ลมกระจายทั่งถึง ลมเข้าทางcooling pad เท่านั้น

ความรู้จากหนังสือ (เครดิต บ้านรังนก.คอม)











 หัวข้อกระทู้ :ตอบ:ความรู้ จากบ้านรังนก.คอม.. 09-06-2012 07:49:55 

SC




คุณสมบัติส่วนตัวของนกแอ่นทำรังด้วยน้ำลาย คือ
1.ชอบหลบซ่อน ทำรังในที่ทีมันคิดว่าปลอดภัย
2.อุณหภูมิ/ความชื้นอยู่ที่ ประมาณ 27-29 องศา ความชื้นประมาณ 75-80 %
3.การบินจะบินเป็นวงกลมซ้ายหรือขวาใช้ระบบเสียงหาตำแหน่ง(echolocation)

สำหรับวงบินของนก ภายในห้องของบ้านนกมีข้อควรสังเกตุอย่างนี้ครับ
1.มีรูเข้าออกทางเดียว ก่อนออกนกต้องบินผ่าฝูงบินซึ่งทำให้มีความลำบากในการออก
*ในความคิดของผม คิดว่ามีทั้งข้อดีและขอเสีย*













SC
ตั้งใจ


แนวทางแก้ไขคือ เจาะรูเพิ่มอีก 1 รู           !แล้วนกจะเข้ารูไหน -> ก็ขึ้นอยู่กับวงบินของห้องก่อนหน้าห้องนี้นะครับ












SC
ตั้งใจ



การทำให้นกเข้าบ้านและบินไปตามห้องต่างๆเรื่องของช่องนี้เมื่อทดลองสังเกตุดูจะพบว่า
ช่องใหญ่นกจะเข้าได้ง่ายกว่าช่องเล็กโดยช่องมีขนาดมาตรฐานที่ได้ผลดีต่อการชักชวน
ให้นกบินเข้าง่ายดังรูปครับ













ตั้งใจ



โดยมีข้อสังเกตุว่าความยาวของลำตัวนกจากปลายปีกซ้ายถึงปลายปีกขวาประมาณ 20 ซม. ทดลองสังเกตุดูรูปนี้ดีนะครับแล้วจะคิดอะไรๆเกี่ยวกับช่องได้เยอะ

IP Logged
อ้างอิงตอบ









SC
ตั้งใจ
ลงทะเบียนเมื่อ: 04-03-2010 21:50:11
ตอบ: 114
ที่อยู่


เมื่อเราได้บ้านอุณหภูมิ/ความชื้นที่เหมาะ สมและคงที่มีช่องนกเข้าที่ดีง่าย ต่อการบินเข้าออก ตอนนี้เราจะมาดูไม้ที่นกทำรัง(Nesting Planks)
ประเภทไม้ : ไม้เนื้ออ่อน ไม่ไสเรียบไม่มีกลิ่นฉุน (ไม้ทุกชนิดมีกลิ่น)
ในการเกาะของนกแอ่นด้วยลักษณะของขานกไม่สามาถเกาะคอนเหมือนนกทั่วไปได้ แต่เท้านกแอ่นมีเล็บที่แหลมคมที่ใช้เกาะวัสดุที่ไม่เรียบหรือขรุขระได้ง่าย ซึ่งถ้าใช้ไม้เนื้อแข็ง เล็บที่แหลมคมก็ไม่ระคายผิวไม้ ลักษณะทางกายภาพของนกเอื้อให้เกาะที่มุมง่ายกว่า เพราะมุมจะเป็นลักษณะที่ไม้ยื่นออกมาหาตัวนก ดังนั้นที่ใช้ไม้เนื้อแข็งโอกาศที่เห็นรังมุมจึงเยอะกว่า ด้วยเหตุผลที่กล่าวมา ไม้เนื้อแข็งผิวของมันจะค่อยๆเสื่อมสลายลงไปเรื่อยๆโดยเฉลี่ยใช้เวลาประมาณ 3-4 ปีครับ ซึ่งถ้าเป็นบ้านใหม่นี่อาจเป็นอีกปัจจัยหนึ่งที่ทำให้นกเข้าอยู่น้อยในช่วง ปีที่ 1-4 ตอนนี้คงพอนึกออกว่าระหว่างไม้เชอร่ากับไม้จริง(เนื้ออ่อน)อะไรดีกว่ากัน แต่ข้อเสียของไม้เนื่ออ่อนคือ รูในเนื้อไม้ใหญ่ความชื้นจากบรรยากาศเข้าได้ง่ายทำให้เกิดรา หรือเปื่อยยุ่ยได้ง่าย แม้แต่ไม้ swo2 ก็มีอายุประมาณ 20 ปีเท่านั้นนะครับ ใครที่ให้บ้านนกเป็นมรดกคงต้องสอนทายาทเรื่องการเปลี่ยนกระดานรังนกด้วย เข้าเรื่องดีกว่า ขนาดความกว้างของคานจะมีผลต่อจำนวนขนนกที่จะติดรังขณะนกสร้างบ้านด้วย ดูตามรูปเอาเองนะครับ











SC
ตั้งใจ



สรุปไม้กระดานรังนก ควรมีความกว้างประมาณ 15 cm เป็นความกว้างที่นกจะมีตำแหน่งเ้กาะป้ายน้ำลายทำรังโดยที่โอกาสขนจะติดรัง
ได้น้อย ส่วนการตีกระดานรังนกจะต้องตีขวางกับเส้นทางบินของนกแต่จะเกิดปัญหา
นกจะทำรังเพียงด้านเดียวดังรูป












SC
ตั้งใจ



เราแก้ไขด้วยการแบ่งอาณาเขตย่อย(ไม่เกี่ยว กับการกั้นห้อง system partition) โปรดสังเกตุ ธรรมชาติของนก เมื่อบินเข้ามาในแต่ละห้อง มันจะเริ่มส่งเสียงหาตำแหน่ง ซึ่งไม้กระดานที่ตีขวางจะสะท้อนเสียงได้ดีกว่า สำหรับอาณาเขตย่อยเราใช้ไม้ต่อลงมาอีกตามแนวเส้นสีดำอีกประมาณ 5 cm จากไม้กระดานรังนกเก่ารวมกว้าง 20 cm และแก้ไขไม้บางส่วนให้สะท้อนเสียงนกได้ดีขึ้น
IP Logged
อ้างอิงตอบ









SC
ตั้งใจ



หวังว่าข้อมูลที่โฟสขึ้นนี้คงมีประโยชน์ต่อเพื่อนๆที่อ่าน ผมมิได้จับหนังสือมาลงทุกหน้า
ทุกบทเพราะบางส่วนก็ซ้ำกับความรู้ที่มีผู้พูดในการอบรมหรือข้อความบางส่วนในเวป
ซึ่งหลักๆก็เกือยเหม็ดแล้ว (ออกสำเนียงใต้นะครับ)คงเหลือเทคนิคกะจิบกะจ้อยซึ่งจะ
ไม่เอามาลงเพราะบางที่ไม่มีหลัการใดๆ ใช้เพียงแค่สังเกตุ ฉะนั้นวันนี้เลยเอาบทสุดท้าย
ซึ่งอาจสอดคล้องกับที่คุณ tonyb ได้พูดถึงช่วงเวลาการเปิดบ้านนก
เขาบอกว่า นกรุ่นใหม่จะเริ่มจับคู่ทำรังกัน 2 ช่วงคือ ก.พ. และ ต.ค. เมื่อนกรุ่นใหม่เริ่มจับคู่จะมีปรากำการณ์ย้ายถิ่นเกิดขึ้น (มันหาที่สร้างรังของมันเอง) แสดงข้อมูลโดยรูปว่า บ้านที่สร้างเสร็จเดือนไหนนกจะเริ่มเข้าอยู่อย่างไร สรุปง่ายๆว่าควรเริ่มเปิดเรียกนก เดือน มกราคม นกจะมีช่วงย้ายถิ่น ก.พ.-เม.ย. เดือน กันยายน นกจะมีช่วงย้ายถินยาวที่สุดคือ ต.ค.-เม.ย. เว้น ม.ค. เดือนเดียว ในทำนองเดียวกันมีวิธีป้องกันหรือชลอการย้ายถิ่น เราจะไม่โฟสเพราะต้องรอให้ผมทำบ้านนกเสร็จก่อน..ฮิ..ฮิ         *ปรากฎการย้ายถิ่นมีอีกหลายสาเหตุ แต่ไม่กล่าวในที่นี้
IP Logged
อ้างอิงตอบ










SC
ตั้งใจ


เมื่อวานเข้าไปอ่านหัวข้อการอบรมรุ่น 2 ภาพนี้น่าจะมีประโยชน์เผื่อเอาไปใช้ในการอบรม รายละเอียด
-ระยะวงบิน - ตำแหน่งกระดาน ดูจากรูปแล้วกันครับ
เมื่อวานมีเพื่อนสมาชิก เรียกว่า พี่หมอแล้วกัน ปรึกษาเรื่องไม้กระดานรังนก
ถ้าสังเกตุให้ดีจะมีคำตอบอยู่แล้ว แต่ไม่เป็นไรพรุ่งนี้ ผมเอาทฤษฎีกับปฎิบัติมาเปรียบเทียบกันให้นะครับ วันนี้ขอเวลานั่งย่อรูปเสียก่อน
กว่าจะโฟสลงมาได้ ใช้เวลาเหลือเกิน เพราะรูปที่ใช้กล้องถ่ายมัน 200 kb ขึ้นไป













SC
ตั้งใจ



อันนี้ทฤษฎี การตีไม้ทำรัง แบบคลาสสิค และแบบ แมททริก บางคนบอกว่าคลาสสิคดีเพราะมุมน้อย แต่ แต่ ดูรูปต่อไปครับเมื่อนกทำรังเต็มพื้นที่  กรุณานั่งนับรังมุม รังดี เอานะครับว่าแบบไหนให้ผลผลิตมากกว่า

เปียสโซ ลำโพง

 ลำโพง ที่เราๆท่านๆใช้กันอยู่ทุกวันนี้ มีอยู่ 2ประเภท คือ  1 ลำโพงแม่เหล็ก  2 ลำโพงเปียสโซ     คำถามต่อมาที่มักจะได้รับ คือ ตัวไหนดีกว่ากัน
เพียงคำตอบว่า ตัวที่ 1 แม่เหล็ก  หรือ ตัวที่ 2 เปียสโซ เท่านั้น คงไม่ใช่ความรู้ที่คู่ควรแก่การเลือกใช้ ลำโพงแน่นอน  กระทู้นี้เรา จะำไปเจาะลึกเรื่องของลำโพงกันอีกครั้ง
ผมคงไม่สอนวิธีการ ต่อลำโพงแบบขนาน แบบอนุกรม ว่าต้องทำอย่างไร และไม่มีสูตรให้ด้วย แต่จะชี้ชัดถึงเหตุและผล  การเลือกใช้และวิธีการต่อลำโพงแบบง่ายๆ ที่ใช้ได้จริง 
 การทำงานของลำโพงนั้น อาศักหลักการ ที่ว่า ป้อนสัญญาณไฟฟ้า หรือสัญญาณเสียงเข้าไปในลำโพง โดยส่วนประกอบภายในของลำโพงจะสั่นกระพือเด้งไป เด้งมา ทำให้อากาศบริเวณรอบตัวลำโพง เครื่องที่สั่นตามไปด้วย จึงเกิดสัญญาณเสียง  ถึงตรงนี้ท่านทดลองเป่าลมออกจากปากโดยที่ริมฝีปากติดกันนั่นแหละครับ หลักการของลำโพง
 ลำโพงที่เราใช้ฟังเสียงเพลงตามบ้านของเรา จะมีอิมพีแด้นซ์ 4 - 8 โอมห์ เนื่องจากเป็นค่าความต้านทานของขดลวดที่ต่ออยู่กับลำโพงชนิดแม่เหล็ก
การที่ลำโพงแม่เหล็กต้องมีขดลวดเพราะว่า เราต้องการให้ขดลวดเกิดสนามแม่เหล็กเมื่อป้อนสัญญาณเสียงเข้าไป เมื่อเกิดสนามแม่เหล็กชั่วคราวมันก็จะผลักกับแม่เหล็กฐาวรที่ก้นลำโพง ทำให้เกิดเสียงขึ้น
ในส่วนลำโพงเปียสโซนั้น ใช้หลักการเพียงแผ่นเพรส 2 แผ่นวางใกล้ๆกัน เมื่อป้อนกระแสไฟฟ้าเข้าไป แผ่นเพรสดังกล่าวจะสั่นทำให้เกิดเสียง
เมื่อไม่มีขดลวด ลำโพงประเภทนี้จึงมี อิมมีแด้นซ์เป็น อินฟีนิตี้ (มากๆๆๆๆๆ)
ดังนั้นลำโพงเปียสโซที่ขายตามบ้านหม้อส่วน ใหญ่ จึงแก้ไขเรื่อง อิมพีแด้นซ์ให้เท่ากับลำโพงชนิดแม่เหล็กด้วยการ เพิ่มขดลวดเข้าไปด้วย ดังรูปที่ท่านเห็นด้านบนนี้

โดยสภาพการใช้งานปกติ เราใช้ ลำโพงเสียงแหลมเพียง 1 หรือ 2 ตัว ต่อข้างเท่านั้น (เครื่องเสียงระบบ สเตอริโอ มี 2 ch  ซ้าย และ ขวา) แล้วถ้าการต่อลำโพงแบบขนานจำนวนมากๆแบบในบ้านรังนก จะเกิดอะไรขึ้น ตามสูตรการต่อขนาน แล้ว เราจะได้ค่าอิมพีแด้นซ์รวม เท่า กับ ค่าตัวที่น้อยที่สุด งง  งง  งง  อย่าเพิ่งมึนครับ อธิบายง่ายๆคือ ถ้าเอาลำโพง 8 โอห์ม จำนวน 2 ตัวมาต่อขนานกัน เราจะได้ค่าอิมพีแด้นซ์รวมเท่า 4 โอห์ม และถ้านำมาต่ออีก 2 ตัวค่าอิมพีแด้นซ์ที่ว่าจะเหลือเพียง 2 โอห์ม เมื่อ จำนวนลำโพงมากขึ้นค่าอิมพีแด้นซ์จะลดลงไปเรื่อย จนคล้ายๆกับ เราเอาลวดทองแดง มาต่อ ระหว่างขั้วลำโพงทั้ง 2 ขั้วเลย  ซึ่งหมายความว่าเครื่องเสียงของท่านก็จะ ช๊อตและเสียหายได้ในที่สุด
ในกรณีของลำโพงชนิดแม่เหล็กที่มีขดลวด เราจึงมีอุปกรณ์ อีกชนิดหนึ่ง ที่ให้หลักการส่งสัญญาณเสียงแบบเหนี่ยวนำคือ ลำโพงไม่ได้ต่อตรงกับสายลำเครื่องเสียง แต่จะผ่านหม้อแปลงตัวเล็ก เราเรียกมันว่า แมทชิ่งทรานฟอเมอร์  แต่ถ้าเราใช้ลำโพงแบบเปียสโซแท้ แล้ว เราสามารถนำลำโพงมาต่อขนานกันโดยที่ไม่เกิดปัญหาเรื่อง ดังกล่าวข้างต้นเลย นั่นจึงเป็นเหตุผลที่ว่า  ลำโพงบ้านรังนก เราจึงนิยมหันมาใช้ ลำโพงเปียสโซกัน

แล้วเราจะรู้ได้อย่างไร ว่า ลำโพงเปียสโซนั้น มีขดลวดต่ออยู่ไหม  ท่านต้องมีความรู้การใช้มิเตอร์ หรือให้ที่ร้านขายลำโพง วัดโอห์ม ที่ขั้วลำโพงให้
โดยลำโพงเปียสโซนั้น เข็มของมิเตอร์จะไม่ขึ้น เนื่องจากมีอิมพีแด้นซ์สูงมาก ส่วนลำโพงแม่เหล็กหรือลำโพงเปียสโซที่ใส่ลวดทองแดงไว้เข็มมิเตอร์จะขึ้น อยู่ที่ตัวเลขค่า ประมาณ 8 โอห์ม
กรณีที่ท่านหาซื้อลำโพงเปียสโซ่แท้ๆไม่ได้ ถ้ามีความรู้ทางการบัดกรีมาบ้างท่านก็ แกะลำโพงเปียสโซแล้ว บัดกรีถอดขดลวดทองแดงออกเอาไปขายได้ครับ  แต่ถ้าต้องการความรวดเร็ว อาจใช้สว่านเจาะให้โดนตำแหน่งของขดลวดให้ขาดก็ใช้ได้แล้วครับ
 
สำหรับเสียงของลำโพงทั้ง 2 ประเภท ถ้าท่านตั้งใจฟังให้ดี ท่านจะพบว่า ลำโพงแบบแม่เหล็กจะให้เสียง แหลมที่อ่อนนิ่ม กว่าเสียง แหลมที่ได้จากลำโพงเปียสโซ  ดังนั้นจึงขอแนะนำว่า ลำโพงเสียงเรียกนอกที่ปกติจะต่อไว้ที่ ปากทางเข้าของหอนก เพียง 1-2 ตัว เราสามารถใช้ ลำโพงแม่เหล็กได้ 
แต่สำหรับเสียง เรียกใน ต่อลำโพง จำนวนมาก หรือ มากกว่า 10 ตัว ขึ้นไป ใช้เปียสโซเกอะครับ  เครื่องเสียงหัวใจหลักของบ้านนก จะอยู่ยงคงกระพันคู่บ้านนกของท่าน ไปอีกนานแสนนาน........

แผ่นเปียสโซ กำเนิดเสียง  ---//-----